สีกันไฟ (Intumescent Paint) คืออะไร?
ในอุตสาหกรรมที่ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ สีกันไฟ หรือ Intumescent Paint ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่จำเป็น โดยเฉพาะกับโครงสร้างเหล็กในโรงงานอุตสาหกรรม สีกันไฟมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยชะลออุณหภูมิโครงสร้างเหล็กไม่ให้พุ่งสูงจนเกิดอันตรายจากไฟ ทำให้ลดโอกาสการพังทลายของอาคารและเพิ่มเวลาในการอพยพหรือควบคุมเพลิง
หลักการทำงานของสีกันไฟ
เมื่อโดนความร้อนสูง (เช่น ระหว่างไฟไหม้ สีกันไฟจะเกิดปฏิกิริยาพิเศษ ทำให้ชั้นเคลือบพองตัวกลายเป็นโฟมหนา ทําหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อน
ยับยั้งไม่ให้อุณหภูมิเหล็กโครงสร้างสูงเกิน 550°C (จุดที่เหล็กเริ่มสูญเสียความสามารถรับน้ำหนัก)
เพิ่มเวลาทนไฟ 2–3 ชั่วโมงตามกฎหมายอาคารและมาตรฐาน ISO 834
โครงสร้างเหล็กใดที่เหมาะใช้สีกันไฟ
เสา, คาน, โครงหลังคาของโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานที่โครงสร้างเปลือย (ไม่มีคอนกรีตห่อหุ้ม)
อาคารสูง, ศูนย์ประชุม, ศูนย์การค้า และสนามบิน
พื้นที่ที่มีความเสี่ยงไฟไหม้สูง หรือใช้สารเคมีไวไฟ
ข้อดีของสีกันไฟสำหรับโครงสร้างเหล็ก
ติดตั้งง่าย รวดเร็ว น้ำหนักเบากว่าแผ่นฉนวนหรือการหุ้มวัสดุ
ไม่บดบังสถาปัตยกรรมหรือรูปลักษณ์โครงสร้าง
เพิ่มความปลอดภัยสูงสุด ลดความเสียหายเชิงโครงสร้าง
ได้รับมาตรฐานและการรับรองจากสากล รองรับกฎหมายอาคาร
ขั้นตอนการใช้งานสีกันไฟในโรงงานอุตสาหกรรม
สีกันไฟจะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อทาตามขั้นตอนมาตรฐาน โดยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอนหลักที่ควรปฏิบัติ:
เตรียมพื้นผิว
ขจัดสนิม, คราบฝุ่น, ไขมัน, รอยเชื่อมหรือสิ่งแปลกปลอม
ลงสีรองพื้นกันสนิม
เลือกสูตรที่รองรับการใช้งานอุตสาหกรรม ช่วยเสริมการยึดเกาะสีชั้นต่อไป
ทาสีกันไฟ (Intumescent Paint) เป็นชั้นกลาง
ทาตามความหนาที่ระบุในสเปกและมาตรฐาน (เช่น 1000–3000 ไมครอน หรือแล้วแต่ระดับความต้องการทนไฟ)
สามารถเลือกสูตรได้ตามความเหมาะสม เช่น สำหรับภายใน/ภายนอก อาคาร หรือชนิดที่ทนสารเคมีได้ดี
ทาสีทับหน้า (Topcoat)
เพื่อความสวยงามและเพิ่มการทนทานต่อสภาพแวดล้อม เช่น ผลิตภัณฑ์ Epoxy, Polyurethane
เทคนิคการเลือกใช้สีกันไฟให้เหมาะกับโรงงาน
เลือกประเภทที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO 834 หรือ มอก.
ตรวจเช็คให้ผ่านการทดสอบ Fire Test และ Fire Rated Paint
คำนวณความหนาตามคู่มือผู้ผลิตและค่าตามมาตรฐานอุตสาหกรรม
จุดเน้นด้านกฎหมาย
อาคารอุตสาหกรรมตามกฎหมายไทยและสากล ต้องใช้วัสดุหรือเคลือบโครงสร้างเหล็กให้ทนไฟไม่น้อยกว่า 2 ชม.
ผลิตภัณฑ์ต้องมีเอกสารรับรองผลทดสอบการทนไฟ (Fire Resistance Certificate)
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญสีกันไฟในโรงงาน
เพื่อให้การติดตั้งสีกันไฟได้ผลจริง ควรปฏิบัติดังนี้:
ใช้ทีมช่างเฉพาะทางหรือบริษัทที่ได้รับการรับรอง
ตรวจดูเอกสาร Fire Resistance Rating, รายงาน Test Lab และใบ Certificate
วางแผนบำรุงรักษาตามรอบ เพื่อให้สีกันไฟคงประสิทธิภาพระยะยาว
เหมาะกับใคร?
วิศวกรโครงสร้าง: ที่ต้องออกแบบอาคารให้ตรงตามกฎหมายและข้อบังคับไฟไหม้
เจ้าของโรงงาน: ที่ต้องการแนวทางเพิ่มความปลอดภัยแบบคุ้มงบ
ผู้ควบคุมงาน (Site Supervisor): ที่ต้องตรวจรับงานและเข้าใจขั้นตอน QC งานเคลือบสีกันไฟ
สรุป: ทำไมโรงงานอุตสาหกรรมยุคใหม่ต้องเลือกใช้สีกันไฟ
เพิ่มระดับความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ป้องกันอาคารพังทลาย ชะลอการวิกฤติเมื่อเกิดไฟไหม้
ช่วยให้อาคารผ่านการตรวจรับรองและสามารถออกใบอนุญาตประกอบการได้
ติดตั้งได้ทั้งอาคารใหม่และ retrofit อาคารเดิม
หากคุณเป็นวิศวกรควบคุมงาน หรือผู้ดูแลโรงงาน อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์จริง! สีกันไฟคือโซลูชันพื้นฐานที่ควรเริ่มวางแผนตั้งแต่วันนี้