สีงานเหล็ก สีงานไม้ สีงานคอนกรีต ต่างกันยังไง? เลือกผิดเสี่ยงงานพัง!

ความสำคัญของการเลือกสีให้เหมาะกับวัสดุ

ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเหล็ก งานไม้ เฟอร์นิเจอร์ หรือผนังคอนกรีต การเลือกสีผิดประเภทอาจนำมาซึ่ง:

• สีหลุดล่อน พองบวม
• พื้นผิวเสียหายเร็วกว่ากำหนด
• เกิดสนิม เชื้อรา หรือความชื้นแทรกซึม
• ต้องเสียค่าใช้จ่ายซ่อมแซมบ่อย

เพื่อคุณภาพและอายุการใช้งานที่ยาวนาน วิศวกร ช่าง และฟรีแลนซ์จึงต้องรู้หลักการเลือกสีให้ตรงกับพื้นผิว

ตำราสี: สีงานเหล็ก สีงานไม้ สีงานคอนกรีต ต่างกันยังไง

1. สีงานเหล็ก

• วัสดุหลัก: โครงสร้างเหล็ก, ประตู, รั้ว, งานประกอบโครงเหล็ก
• ประเภทสีที่ใช้:
  • สีน้ำมันเฉพาะงานเหล็ก เช่น สีอีพ็อกซี่ สีโพลียูรีเทน
  • ต้องมี ""สีรองพื้นกันสนิม"" ก่อนทาสีจริง
• คุณสมบัติ:
  • ทนสนิม ยึดเกาะกับโลหะดี
  • ทนแดด ทนฝน ทนสารเคมี
  • ฟิล์มสีเหนียวแน่น ไม่หลุดง่าย
• หากเลือกผิด: สีเกาะติดไม่ดี เกิดสนิม สีลอกง่าย อายุสั้น

เคล็ดลับ:

• ใช้รองพื้นกันสนิมทุกครั้งก่อนทาสีทับหน้า
• เลือกยี่ห้อที่ระบุว่าป้องกันสนิมได้จริง

2. สีงานไม้

• วัสดุหลัก: เฟอร์นิเจอร์, กรอบหน้าต่าง, บานประตู, ไม้จริง/ไม้เทียม
• ประเภทสีที่ใช้:
  • สีย้อมไม้ (โชว์ลายไม้)
  • สีทับหน้าไม้ (ทึบแสง)
  • สีน้ำมันสำหรับงานไม้
  • ""สีรองพื้นไม้กันเชื้อรา"" ป้องกันเชื้อราก่อนทาสีจริง
• คุณสมบัติ:
  • ซึมเข้าเนื้อไม้ กันความชื้น
  • บางสูตรโชว์ลายไม้เดิม
  • ฟิล์มสียืดหยุ่น ป้องกันไม้บวม
• หากเลือกผิด: สีไม่ซึม เกิดราดำ ไม้บวม ยึดเกาะผิวไม่ดี

เคล็ดลับ:

• ใช้รองพื้นไม้กันเชื้อราก่อนงานทาสีทุกครั้ง
• สำหรับไม้เทียมหรือไฟเบอร์ซีเมนต์ ควรเลือกสีสูตรน้ำแบบเดียวกับคอนกรีต

3. สีงานคอนกรีต (ปูน)

• วัสดุหลัก: ผนัง พื้นอาคาร กำแพง งานปูนฉาบใหม่-เก่า
• ประเภทสีที่ใช้:
  • สีน้ำอะคริลิก (สำหรับภายนอก/ภายใน)
  • สีรองพื้นปูนใหม่/เก่า
• คุณสมบัติ:
  • ยึดเกาะสูง ทนน้ำ ทนแดด
  • ฟิล์มสีเหมาะกับระดับความเป็นด่างสูงของปูน
  • ป้องกันการเกิดเชื้อรา ตะไคร่น้ำ
• หากเลือกผิด: สีพอง หลุดล่อน เกิดเชื้อรา เสียค่าซ่อมบ่อย

เคล็ดลับ:

• ทาสีรองพื้นปูนก่อนเสมอเพื่อกันด่าง
• เลือกสูตรสำหรับภายนอกหากสัมผัสแสงแดด-ฝน

ตารางเปรียบเทียบสำหรับมืออาชีพ

สัญญาณเตือนเมื่อสีทาผิดประเภท

• สีแตก พอง หรือหลุดล่อนตามรอยต่อหรือบริเวณโดนความชื้นจัด
• พื้นผิวไม้มีจุดดำหรือราผุดขึ้น ฟิล์มสีเหนียว-ลอกง่าย
• เหล็กสนิมขึ้นและฟิล์มสีปริแตก
• ผนังคอนกรีตเปลี่ยนสี หรือมีฝุ่นผงหลุดออกมา

สรุป แนวทางเลือกสีสำหรับวิศวกรและช่างรุ่นใหม่

1. ศึกษาวัสดุผิวจริงก่อนทุกครั้ง ว่าเป็นเหล็ก ไม้ ปูน หรือไฟเบอร์ซีเมนต์
2. เลือก ""รองพื้น"" ให้ถูกชนิดวัสดุ รอให้แห้งตามเวลาแนะนำ
3. ใช้สีทับหน้าตรงสูตร และอ่านฉลากยืนยันว่าสำหรับงานเหล็ก ไม้ หรือคอนกรีตโดยเฉพาะ
4. หลีกเลี่ยงการใช้สีผิดประเภทด้วยความเข้าใจผิด หมั่นอัปเดตเทคนิคสีทาและแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

เลือกสีถูกชนิด เสริมให้งานสำเร็จ อายุยาว แข็งแรง ลดปัญหาเสียเงินซ่อมซ้ำซาก

สำหรับมือโปรที่ใส่ใจคุณภาพงาน ทุกขั้นตอนการทาสีต้องใส่ใจทุกดีเทล!"

"## สรุปข้อมูล: สีงานเหล็ก สีงานไม้ สีงานคอนกรีต แตกต่างกันยังไง เลือกผิดเสี่ยงพัง

ความสำคัญของการเลือกสีตามวัสดุพื้นผิว การเลือกใช้สีที่ถูกต้องตามประเภทวัสดุพื้นผิว (เหล็ก, ไม้, คอนกรีต/ปูน) มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความคงทนและคุณภาพของงาน หากเลือกผิด อาจเกิดปัญหาเช่น สีหลุดล่อน สีพอง หรือพื้นผิวเสียหาย ซึ่งส่งผลต่ออายุการใช้งานและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม

ความแตกต่างของสีแต่ละประเภท

รายละเอียดแต่ละประเภท

• สีงานเหล็ก

  • ต้องใช้ “สีรองพื้นกันสนิม” ก่อนทาสีทับหน้า เพื่อป้องกันการเกิดสนิม
  • สีทับหน้าทั่วไปคือสีน้ำมัน, สีอีพ็อกซี่, สีโพลียูรีเทน หรือสีอุตสาหกรรมเฉพาะทาง
  • ใช้สีที่จับกับโลหะได้ดี มีคุณสมบัติทนแดด ทนฝน ทนกรดด่าง

• สีงานไม้

  • แบ่งหลักๆ เป็น “สีย้อมไม้” (โชว์ลายไม้) และ “สีทับหน้าไม้” (ปกปิดผิว ทึบแสง)
  • ควรใช้ “สีรองพื้นไม้กันเชื้อรา” บนไม้ทุกชนิดก่อนทาสีจริง
  • สีน้ำมันและสีย้อมไม้เหมาะกับพื้นผิวไม้โดยเฉพาะ

• สีงานคอนกรีต/ปูน

  • ใช้ “สีน้ำอะคริลิก” สำหรับทั้งภายนอกและภายใน
  • จำเป็นต้องทา “สีรองพื้นปูน” เพื่อช่วยยึดเกาะและกันด่างจากปูน
  • สำหรับผนังใหม่ ให้ใช้รองพื้นปูนใหม่ หากเป็นผนังเก่าใช้รองพื้นปูนเก่า

ข้อควรระวัง

• หากใช้สีงานไม้หรือสีงานเหล็กทาบนคอนกรีต จะยึดเกาะไม่ดี เกิดการพองและหลุดล่อน
• สีสำหรับงานเหล็กและไม้มีส่วนผสมสารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่างจากสีสำหรับปูนหรือคอนกรีต
• ไม้เทียม หรือวัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์ ซึ่งมีส่วนผสมของปูน ควรใช้สีน้ำเหมือนงานคอนกรีต ไม่ควรใช้สีน้ำมัน
• เลือกใช้รองพื้นให้ตรงชนิดวัสดุเพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาว