ไขข้อสงสัย! สีทากันสนิมเรือแบบไหนคุ้มค่า ทนไอเค็มและสนิม สารพัดชนิดที่เจ้าของเรือต้องรู้
ทำไมการเลือกสีทากันสนิมถึงสำคัญกับเรือเดินทะเลและอู่ต่อเรือ
ทะเลคือสิ่งแวดล้อมสุดโหดสำหรับเรือทุกลำ ไอเค็ม แสงแดด สารเคมี และสิ่งมีชีวิตใต้ผิวน้ำต่างพร้อมจะกัดกร่อนและทำลายโครงสร้างเหล็กหรือพื้นผิวเรืออย่างต่อเนื่อง หากเจ้าของเรือหรืออู่ต่อเรือละเลยเรื่องการเลือกสีทากันสนิมที่เหมาะสม จะส่งผลให้เรือมีอายุการใช้งานสั้น เกิดปัญหาสนิม เป็นอันตรายต่อการเดินเรือและค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาที่สูงขึ้น
ประเภทของสีทากันสนิมสำหรับเรือเดินทะเลที่นิยมใช้
1. สีอีพอกซี (Epoxy Paint)
- ทนทานสูงต่อการกัดกร่อนจากไอเค็มและสารเคมี
- ใช้งานได้กับพื้นผิวเหล็กและคอนกรีต
- นิยมใช้ทารองพื้น ใต้ท้องเรือ และบริเวณสัมผัสน้ำทะเล
- ตัวอย่างแบรนด์: JOTUN, TOA, CHUGOKU, BEGER
2. สีโพลียูรีเทน (Polyurethane Paint)
- ทนแดดและ UV ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับสีทับหน้าบนเรือ
- ป้องกันสนิม ยืดอายุการใช้งานผิวสี
- มักใช้คู่กับรองพื้นอีพอกซี
- แบรนด์แนะนำ: TOA, JOTUN, BEGER
3. สี Coal Tar Epoxy
- ผสมระหว่างน้ำมันดินและอีพอกซี
- ป้องกันน้ำทะเล สนิม และแรงขูดขีดในส่วนที่จมน้ำหรือใต้น้ำ
- เหมาะสำหรับใต้ท้องเรือและชิ้นส่วนที่ต้องการปกป้องสูงสุด
4. สีกันสนิมสังกะสีซิลิเกต (Zinc Silicate Paint)
- เหมาะกับงานอุตสาหกรรมหนัก เช่น เรือเหล็ก และโครงสร้างในทะเล
- รับแรงกัดกร่อนและไอเค็มได้เยี่ยม
- ใช้ในระบบรองพื้นก่อนทาสีชั้นถัดไป
5. สียางคลอรีน (Chlorinated Rubber Paint)
- ทนต่อน้ำและความเค็ม
- นิยมใช้ทาเป็นทับหน้าบริเวณสัมผัสน้ำเป็นประจำ เช่น ดาดฟ้า
6. สีน้ำมัน Alkyd Enamel
- เหมาะกับพื้นที่ไม่สัมผัสน้ำทะเลโดยตรง เช่น ห้องโดยสารหรือพื้นไม้
- ราคาเข้าถึงง่าย แต่ทนทานไอเค็มและสนิมต่ำกว่าประเภทอื่น
7. สีกันเพรียง (Antifouling Paint)
- ทาชั้นนอกสุดของตัวเรือในส่วนที่จมน้ำ
- ป้องกันสิ่งมีชีวิต (เพรียง, หอย, ตะไคร่น้ำ) มาเกาะผิวเรือ
ระบบการทาสีเพื่อปกป้องเรือคุณสูงสุด
หนึ่งในหัวใจของการป้องกันสนิมเรือ คือ "ระบบทาสี" ที่ต้องประกอบไปด้วย
- สีรองพื้นกันสนิม (Primers): เช่น อีพอกซี, Zinc Silicate เพื่อป้องกันการเกิดสนิมที่ผิววัสดุ
- สีทับหน้า (Topcoat): เลือกกลุ่มโพลียูรีเทนหรือ Chlorinated Rubber เพื่อเผชิญแดดและไอเค็ม
- สีกันเพรียง (Antifouling): สำหรับส่วนที่จมน้ำ
ขั้นตอนแนะนำ:
- เตรียมพื้นผิวด้วยการขัดสนิมหรือพ่นทราย
- ทารองพื้นกันสนิม 1-2 รอบ (ใช้ Epoxy Primer หรือ Zinc Primer)
- ลงสีทับหน้า Polyurethane หรือ Chlorinated Rubber
- ส่วนใต้น้ำเคลือบทิ้งท้ายด้วยสีกันเพรียง
ข้อควรพิจารณาในการเลือกสีทาเรือ
- ความเหมาะสมกับตำแหน่งใช้งาน (ใต้ท้องเรือ, ดาดฟ้า, โครงเหล็กต่างๆ)
- งบประมาณและอายุการใช้งานที่ต้องการ
- เลือกแบรนด์ที่เชื่อถือได้ อาทิ JOTUN, TOA, CHUGOKU, BEGER, DYNO, TURBO
- ขอคำแนะนำจากช่างหรือซัพพลายเออร์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเลือกซื้อ
สรุป: เลือกสีทากันสนิมเรืออย่างไรให้ทนใจและทนไอเค็ม
- "สีอีพอกซี" สำหรับรองพื้นหรือส่วนสัมผัสน้ำรุนแรง
- "โพลียูรีเทน" และ "Chlorinated Rubber" สำหรับสีทับหน้า
- "Coaltar Epoxy" และ "Zinc Silicate" สำหรับงานหนักและโครงสร้าง
- "สีกันเพรียง" ป้องกันสิ่งเกาะติดใต้เรือ
ตัวอย่างการเลือกระบบสี
- ใต้ท้องเรือ: Epoxy Primer + Coaltar Epoxy + Antifouling
- ดาดฟ้า: Epoxy Primer + Polyurethane Topcoat
- โครงสร้างเหล็ก: Zinc Silicate + Epoxy + Polyurethane
การวางแผนระบบสีและเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมไม่เพียงถนอมโครงสร้างเรือ แต่ยังสร้างความคุ้มค่าในระยะยาว
แบรนด์สีทาเรือยอดนิยม (Marine Grade)
- JOTUN
- TOA
- CHUGOKU
- BEGER
- DYNO
- TURBO
Tip: ติดต่อฝ่ายขาย/ผู้จัดจำหน่ายสี Marine Grade เพื่อขอใบเสนอราคาและปรึกษาเรื่องการเลือกสีที่เหมาะกับเรือของคุณ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ใช้สีทากันสนิมอุตสาหกรรมธรรมดาได้ไหม?
A: ไม่แนะนำ! ควรเลือกสี Marine Grade เท่านั้น เพื่อทนความเค็มและการกัดกร่อนระดับทะเล
Q: ระบบทาสีที่ดีควรเปลี่ยนใหม่บ่อยแค่ไหน?
A: เฉลี่ยทุก 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน
Q: หากเลือกสีผิด ผลเสียคืออะไร?
A: เสี่ยงเกิดสนิม การสึกหรอเร็วกว่ากำหนด และเสียค่าใช้จ่ายซ่อมแซมสูง